ข่าวบอลวันนี้ การแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พบกับ บาเยิร์น มิวนิค

ข่าวบอลวันนี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สถิติโดยรวมในช่วงที่ผ่านมาของทางทีมนั้น สามารถพูดเต็มปากว่า ทำผลงานได้ค่อนข้างยอดเยี่ยม ทั้งชื่อชั้น และ ศักยภาพของทีม
ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา ที่เรียกได้ว่าโชว์ศักยภาพได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะถล่มสกอร์ ทีมชั้นนำจากลีกบุนเดสลีกาเยอรมัน อาร์บี ไลป์ซิก ที่สกอร์ 0-3 เรียกได้ว่าซีซั่นนี้ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้รับถ้วยแชมป์มากถึง 3 รายการ จากทั้งหมด 3 รายการในประเทศ ในขณะที่ทีม บาเยิร์น มิวนิค ผลการแข่งขันโดยรวมในช่วงที่ผ่านมานั้น พูดได้อย่างเต็มปากว่าว่า ทำผลงานได้ดีเยี่ยมยากจะหาทีมไหนมาเปรียบได้ โดยเฉพาะผลการแข่งขันในช่วงหลังจากที่กลับมาเปิดลีกปะทะแข้งกันอีกครั้ง จากรายการแข่งขันทั้งหมด 14 นัด ในทุกรายการที่ลงเล่น บาเยิร์น ชนะติดต่อมาได้ทุกนัด
โดยรายการนี้ การแข่งรอบตัดเชือก 3 รอบที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 4 นัด พวกเขา ยิงตุงตาข่ายคู่แข่งไปถึง 18 ประตู เสียท่าไปแค่ 3 ประตูเท่านั้น เรียกได้ว่า ฟอร์มการเล่นเปรียบเสมือนเทพเจ้าในรายการนี้ ทั้งนี้บาเยิร์นยังได้รับแชมป์ไปแล้วถึง 2 รายการ จากทั้งหมด 2 รายการในประเทศ ในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ว่าในรอบชิงชนะเลิศนี้ พวกเขาจะต้องปะทะกับทีมอันดับหนึ่งลีกเอิงของฝรั่งเศส อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่พูดได้ว่าในเรื่องของ ชื่อชั้น ศักยภาพของทีมโดยภาพรวมนั้นเรียกได้ว่า คู่คี่สูสีกันเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีใครดูเหนือกว่าใครนัก แต่หากเทียบกันจากฟอร์มการเล่นโดยรวมในรายการนี้ กล่าวได้เลยว่า บาเยิร์น มิวนิค โชว์ศักยภาพได้เหนือชั้นมากกว่าทางด้าน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อยู่เป็นอย่างมาก เพราะคู่แข่งแต่ละทีมที่บาเยิร์นพบมีแต่ทีมแข็งๆอยู่มาก แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะและผ่านเข้ารอบนี้มาได้อย่างไม่เหนือบ่ากว่าแรง
ข่าวบอลวันนี้ เผยเกมการเล่นศึกรอบชิงชนะเลิศปารีส แซงต์ แชร์กแมง พบกับ บาเยิร์น มิวนิค
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง พร้อมตัวสำรองของทั้งสองทีม เรียกได้ว่าเป็นสไตล์การจัดกลยุทธที่ดุเดือดน่าสนใจมาก
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รูปแบบแผนการเล่น (4-3-3) : เค. นาวาส, เพรสแนล คิมเปมเบ้, ดิเอโก้ ซิลวา,T. Kehrer,ฆวน เบร์นาต, มาร์กินญอส, อันเดร์ เอร์เรร่า, L. Paredes ,อังเคล ดิ มาเรีย, เนย์มาร์ , คิเลียน เอ็มบั๊ปเป้
ตัวสำรอง : บัลก้า, แดรกซ์เลอร์, ริโก้, บักเคอร์, ชูโพ-โมเต็ง, แดกบา, ดิอาโล, กานา เก, อิคาร์ดี้, กูร์ซาวา, ซาราเบีย, แวร์รัตติ

บาเยิร์น มิวนิค รูปแบบแผนการเล่น (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ ,โยชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวีส , ติอาโก้ อันกันตาร่า, เลออน โกเร็ทซ์ก้า ,แซร์จ กนาบรี้, โธมัส มุลเลอร์, ค. โกม็อง ,โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ตัวสำรอง : อุลไรช์, ฮอปป์มันน์, ปาวาร์ด, ซูเล, มาร์ติเนซ, คูตินโญ, คุยซานซ์, แอร์น็องด์เดซ, โตลิสโซ, เปริซิช, ลูคัส, เซิร์กซี

โดย 5 นาทีแรก ได้โอกาสยิงไกลครั้งแรกของ ติอาโก้ อันกันตาร่า แต่ยังไม่เป็นประตู และต่อมาโอกาสแรกของทางปารีส จากเนย์มาร์ ที่เกือบทำประตูได้ ตาถูกสกัดจาก นอยเออร์
จากนั้นในนาทีที่ 21 เลวานดอฟสกี้ ยิงทำประตูแต่บอลชนเสา ตามด้วยนาทีที่ 31 เลวานดอฟสกี้ เกือบได้ทำประตูอีกครั้งจากการโหม่ง แต่ถูกประตูปัดออก
และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 แต่หลังจากนั้นในนาทีที่ 59 คิมมิช เปิดบอลไปยังหน้าประตู และมีโคมันโหม่งซ้ำ ขึ้นนำ 1 ประตู และแม้ว่าปารีสจะมีโอกาสหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถทำประตูได้
สรุปผลการแข่งขัน ผู้ที่รับชัยชนะคือ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยผลสกอร์ 1 – 0 ประตู