ข่าว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หายนะ หรือ แค่ฝันร้าย ที่เอติฮัด สเตเดียม

ข่าว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับผลการแข่งขันระดับพลิกล็อควินาศสันตะโร กับฟอร์มการเล่นที่ไม่มีใครคาดคิดว่า จะโดนถล่มยับคาบ้านได้ขนาดนี้ เมื่อแมนเชสเตอร์ซิตี้ เปิดบ้านพ่ายต่อ เลสเตอร์ ชนิดที่ ถ้าใครเห็นสกอร์ จะไม่คิดเลยว่า นี่คือ ผลงานของเรือใบสีฟ้า เพราะโดนจิ้งจอกสยาม ขย้ำไปถึง 2-5 มาดูกันว่าอะไรคือ เหตุแห่งความพ่ายแพ้ที่แท้จริง หรือเป็นเพียงแค่ฝันร้ายนัดเดียวเท่านั้น
ผ่าทีมเรือใบ ไฉนถึงพ่ายยับเพียงนี้ ใน ข่าว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ข่าว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รอบนี้ คงไม่ขอสาธยายถึงเหตุเกิดในสนามว่า ใครเป็นใคร และ ใครยิงได้บ้าง กับเกมการแข่งขันนัดช็อคโลก ที่เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านพ่ายให้กับเลสเตอร์ แบบยับเยิน หมอไม่รับเย็บแบบนี้ แต่สิ่งที่เราขอเจาะลึกกันในครั้งนี้คือ ทำไม ถึงออกทะเลไปไกลซะขนาดนั้น และจะเป็นแบบนี้เรื่อยไป หรือเพียงแค่ฝันร้ายนัดเดียว
- แผงหลังคือปัญหา
ถ้าใครได้ดูเกมนี้ตั้งแต่เริ่มแรก จะรู้ได้ทันทีว่า แผงหลังของเรือใบสีฟ้าวันนี้ เล่นได้ออกทะเลมาก โดยเฉพาะ ผู้เล่นตัวใหม่ นาธาน เอเก้ ที่เป็นบ่อน้ำมันชั้นดี ทั้งวิ่งช้า ยืนตำแหน่งพลาด มีส่วนในการเสียประตูถึงสองลูกเลยทีเดียว
อีกทั้ง กองหลังเรือใบ ไม่ทันเหลี่ยมนักเตะเลสเตอร์ เพราะผลงาน 5 ประตูที่เกิดขึ้นในนัดนี้เกิดจาก จุดโทษถึง 3 ลูก โดยที่กองหลังเรือใบ เข้าพรวดแต่ไม่โจ่งแจ้ง แต่ก็มากพอที่เหล่าจิ้งจอกสยาม จะโชว์ฟอร์ม “ กลิ้งกันไหมลุง ในกรอบเขตโทษ ” เรียกจุดโทษได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นำมาซึ่งความพ่ายแพ้อย่างยับเยินในเกมนี้
- เกมรุกอยู่ไหน
อีกหนึ่งปัญหาที่พบเห็นได้ชัดในเกมนี้คือ แมนซิตี้ ได้ครองเกมบุกมากว่า จากสถิติที่ออกมา ซิตี้ครองบอลได้ถึง 72 % ส่วนเลส เตอร์ได้สัมผัสบอลเพียงแค่ 28% เท่านั้น เรียกได้ว่า โดนบุกจนโงหัวไม่ขึ้น แต่ไฉน ผลสกอร์จึงออกมาพ่ายยับแบบนี้
คำตอบที่แสนชัดเจน เมื่อดูอัตราการทำประตูของเรือใบสีฟ้า พบว่า ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างรุนแรง แม้จะครองเกมได้มากกว่า แต่โอกาสจบสกอร์ มีเพียงน้อยนิด ยิงตรงกรอบเพียงแค่ 5 ลูก จากโอกาสทั้งหมด 12 ครั้ง นั่งหมายความว่า การหายไปของ กุน อเกวโร่ที่ยังเจ็บอยู่ กาเบรียล เชซุส ที่มาเจ็บซ้ำ พักยาวไปอีก 1 เดือน รวมไปถึงการย้ายทีมของ ซิลบา ย่อมส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของทีมเรือใบอย่างมาก
- โดนจับทางได้ซะแล้ว
หลังจากปีแห่งการตัดหน้าคว้าแชมป์ในปี 2018-19 แม้จะคว้าแชมป์มาได้ แต่แมน ซิตี้ เริ่มเกิดอาการเป๋อย่างเห็นได้ชัด หลายเกม พวกเขาเล่นประหนึ่งพร้อมจะแพ้ และในฤดูกาลที่ผ่านมา ความรั่วแบบโดนจับทางได้ กลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ซิตื้แพ้ติด ๆ กันจนถึงกับพลาดแชมป์ให้ลิเวอร์พูลแบบถูกทิ้งกระจาย
ซึ่งในเกมนี้ แม้พลพรรค จิ้งจอกสยาม จะโดนกดหัวอย่างหนัก แต่ ซิติ้กลับทำเกมไม่ได้ แต่ละทีมเมื่อเจอซิตี้ เน้นแพ็คต่ำ ขวางทุกโอกาสของกองหน้า และเมื่อจับจังหวะได้ ก็ฉีกหนีผู้เล่นซิตี้ ที่เพลินจากการบุก จนต้องเสียประตูไป เป็นแบบนี้บ่อยครั้งเหลือเกิน
- หรือหมดเวลาของ เป๊บ
เป็นหัวข้อข่าวเล็ก ๆ เมื่อต้นฤดูกาลว่า แมนซิตี้ และเป๊บ กำลังพูดคุยถึงสัญญาฉบับใหม่ ที่ยังไม่มีข้อยุติว่า เป๊บเลือกที่จะอยู่ต่อ หรือพอแค่นี้ และนี่อาจเป็น อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจ รวมไปถึงจุดอิ่มตัวกับความสำเร็จในถิ่นแมน ซิตี้
ซึ่งจากประวัติของเป๊บ เมื่อใดก็ตามที่เขาพุ่งถึงความสำเร็จขั้นสูงสุดแล้ว เหมือนว่าจะช็อตไปดื้อ ๆ แล้วสุดท้าย เขาก็ขอทูลลา เป็นแบบนี้เรื่อยไป ทั้งตอนคุม บาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิค เมื่อความกดดันมาเยือน เป๊บก็โบกมือลาทันที
จับตามองให้ดี และเชื่อว่า ทุกทีม คงเห็นแล้วว่า ซิตี้ไม่ใช่เทพเจ้าที่ฆ่าไม่ตาย แต่ละทีมงัดแผนปราบเป๊บให้อยู่มือ และนัดหน้า เจอของแข็ง ลีดส์ ยูไนเต็ด ถ้าแพ้มาอีก เราอาจได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในถิ่น เอติฮัด สเตเดียมเป็นแน่